วันพุธที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการ

หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี ได้รับเกียรติใช้สถานที่ของหน่วยจัดเป็นที่ประชุมคณะกรรมการสภาวิชาการ ประจำเดือนธันวาคม 2553 เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553 เวลา 15.00 น. โดยมีนายมานิต วิมุตติสุข ผอ.วชช.พังงา เป็นประธานการประชุม มีคณะกรรมการสภาวิชาการและบุคลากรเข้าร่วม 15 คน

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ศึกษาดูงาน ณ วชช.แม่ฮ่องสอน


กำหนดการศึกษาดูงาน ณ วชช.แม่ฮ่องสอน โดยมี อ.สายันต์ ปานบุตร (เดินทางระหว่างวันที่ 6-16 ธันวาคม 2553) และ อ.โกศล ตึกขาว  (เดินทางระหว่างวันที่ 6-26 ธันวาคม 2553)โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อไปเรียนรุ้การจัดการของหน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียง ในด้านหลักสูตรระยะสั้น หลักสุตรอนุปริญญา และการเข้าร่วมจัดการศึกษากับชุมชน

วันที่ 8 ธันวาคม 2553 ออกเดินทางจาก จ.เชียงใหม่ มา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ใช้ระยะเวลาเดินทาง 3 ชม. ครึ่ง เข้าที่พักของหน่วยจัดฯแม่สะเรียง เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้เป็นอย่างดี            วันที่ 9 ธันวาคม 2553 วันนี้เดินทางจาก อ.แม่สะเรียง ไปยัง อ.แม่ลาน้อย โดยการนำของ อ.กระเเต ซึ่งหน่วยจัดการศึกษาอำเภอแม่ลาน้อยได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจากเครือข่ายอุดมศึกษาภาคเหนือในการทำวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ให้กับชุมชน โดยได้ไปดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากไม้กวาดดอกหญ้า(ก๋ง) ที่บ้านห้วยไก่ป่า ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวกะเหรี่ยง อ.สุรินทร์ได้พา อ.สายันต์ กับ อ.โกศล นอนค้างที่หน่วยจัด อ.แม่ลาน้อย 1 คืน
ลุงๆชาวกะเหรี่ยงตั้งใจกันมัดก๋งเพื่อทำเป็นไม้กวาด  เเต่งานนี้ดูๆแล้วจะมีการซ่อมต่อในวันพรุ่งนี้

วันที่ 10 ธันวาคม 2553 วันนี้ อ.สุรินทร์ จากหน่วยจัดแม่ลาน้อยได้พาไปติดตามโครงการวิจัยต่อที่บ้านห้วยไก่ป่า ซึ่งในวันนี้มีประชาชนและนักเรียนมาร่วมกันทำไม้กวาด ประมาณ 20 คน วันนี้ไปรับประทานอาหารที่บ้านของผู้ใหญ่ซึ่งเป็นศิษย์เก่า วชช. กลับจากบ้านห้วยไก่ป่า ก็ได้ไปดูกลุ่มแกะสลักไม้ ซึ่งในขณะนี้ทราบว่าทางกลุ่มได้แยกกันแกะสลักไม้แล้ว แต่ก็ได้ทำกันอยู่ 3-4 ราย จากนั้นก็ได้เดินทางกลับ อ.แม่สะเรียง

วันที่ 11 ธันวาคม 2553 วันนี้ได้เดินทางไปดูการจัดการเรียนการสอนหลักสูตรอนุปริญญาของหน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียง ซึ่งปัจจุบันมี จำนวน 8 ห้องเรียน มีสาขาการปกครองท้องถิ่น การศึกษาปฐมวัย และการจัดการทั่วไป โดยใช้สถานที่โรงเรียนอนุบาลแม่สะเรียง (บ้านโป่ง) เป็นที่เรียน นักศึกษาที่เรียนมาจากหลายอำเภอ และมาจาก จ.เชียงใหม่ ส่วนมากเป็นชาวเขา หน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียงได้ติดต่อขอรับทุนการศึกษาจากภายนอกมาให้นักศึกษา เทอมละประมาณ 3500-4000 บาท เพื่อให้นักศึกษาใช้ในการเรียนการสอน ที่หน่วยจัดมีเจ้าหน้าที่ทำงาน 5 คน มีคุณประพันธ์ วิริยะภาพ เป็นหัวหน้าหน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียง ทำหน้าที่กลั่นกรองอาจารย์ผู้สอน โดยคัดเลือกอาจารย์ที่มีคุณธรรม จริยธรรม มาสอนนักศึกษา
วันที่ 13 ธันวาคม 2553 วันนี้ได้พบกับอาจารย์ประพันธ์ วิริยะภาพ หัวหน้าหน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียง ท่านอาจารย์ได้สอบถามว่าเราต้องการอะไรบ้างในการมาดูงานที่แม่สะเรียง การมาศึกษาดูงานในครั้งมาดูรูปแบบการทำงานของหน่วยจัดระดับอำเภอในด้านการจัดการเรียนการสอน การตั้งอนุกรรมการอำเภอของหน่วยจัด อาจารย์ประพันธ์ได้ให้แนวคิดในการทำงานในด้านการสรรหาอาจารย์พิเศษ งานกิจการนักศึกษา การบริหารงานหน่วยจัด หน่วยจัดการศึกษาแม่สะเรียงได้รับทุนการศึกษาให้นักศึกษาจากองค์การต่างประเทศ (มูลนิธิสามสาระ) โดยในวันนี้เจ้าของทุนได้มาสอบถาม ติดตามความก้าวหน้าของนักศึกษาทุน ความต้องการของผู้ให้ทุนคือต้องการให้นักศึกษาจบไปแล้วได้ทำงานในพื้นที่ และนำความรู้มาพัฒนางานหรือกิจการของตนเองให้ดีขึ้น

วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ค่ายเยาวชนคุระบุรี

มูลนิธิมวลมิตรไทย จัดค่ายเยาวชนคุระบุรี ในระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2553 ณ หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี โดยมีเยาชนไทยและพม่า เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 30 คน ในกิจกรรมมีทั้งบรรยายและฝึกให้เยาวชนได้ปฏิบัติการใช้ชีวิตประจำวันจริง

งานวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวา มหาราช

หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี เข้าร่วมกิจกรรมงานวันพ่อแห่งชาติ จัดโดยอำเภอคุระบุรี ในวันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม 2553 นำโดยอาจารย์สายันต์ ปานบุตร บุคลากรประจำหน่วยจัด พร้อมด้วยนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ลงพื้นที่สำรวจการเลี้ยงปูนิ่มคุระบุรี

อาจาย์สายันต์ ปานบุตรและอาจารย์โกศล ตึกขาว ลงพื้นที่สำรวจความต้องการการเลี้ยงปูนิ่มของตำบลคุระ อำเภอคุระบุรี ในวันที 21 พฤศจิกายน 2553 พบว่า ประชาชนมีการรวมกลุ่มกันประมาณ 20 คนในการเลี้ยงปูนิ่ม ปัญหาของผู้เลี้ยงคือต้นทุนในการเริ่มต้นสูง มีการดูแลอย่างดี ละเอียด เพราะถ้าขาดความเอาใจใสก็จะไม่ทันเก็บหรือปูตายได้ ในด้านการตลาดมีพ่อค้ามารับซื้อถึงที่ กลุ่มผู้เลี้ยงอยากให้ วชช.พังงาเข้ามาช่วยเหลือในการให้ความรู้และสนับสนุนทุนของกลุ่ม

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วชช.พังงา สร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุข

วชช.พังงา สร้างสังคมอยู่เย็นเป็นสุข

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- เสาร์ที่ 26 มิถุนายน 2553 10:07:54 น.
             การที่จะทำให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุขได้นั้น คงจะต้องมีการนำปัจจัยหลายๆ อย่างเข้ามามีส่วนประกอบ รวมถึงการศึกษาจากชุมชนอื่น ที่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนตนเองได้ เหมือนดังเช่นบ้านหัวสวน อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านต้นแบบในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ดังนั้นวิทยาลัยชุมชนพังงา จึงจัดให้มีกิจกรรม "ค่ายเรียนรู้คุณธรรม นำชีวิตพอเพียง" ให้กับนักศึกษาสาขาการปกครองท้องถิ่น เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรง และสามารถนำมาประยุกต์ ใช้ ให้เหมาะสมกับบุคคลและท้องถิ่น
            อาจารย์สายันต์ ปานบุตร ผู้รับผิดชอบโครงการ เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ วชช.พังงา เลือกชุมชนบ้านหัวสวน เนื่องจากชุมชนดังกล่าวเป็นหมู่บ้านต้นแบบของจังหวัด ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง โดยหมู่บ้านมีวิธีการ และวิธีคิดที่ว่าทุกคนในหมู่บ้านมีความสำคัญเท่าเทียมกัน รับฟังความคิดเห็นของคนส่วนน้อย เพื่อนำมาพิจารณาความสำคัญของปัญหาของคนเหล่านั้นก่อน ซึ่งการจัดโครงการนี้ วิทยาลัยฯ นำนักศึกษาจำนวน 30 คน เข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อศึกษาเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม แนวทางการดำเนินชีวิตที่อยู่บนหลักเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการศึกษาเรียนรู้ร่วมกันกับปราชญ์ชาวบ้าน
ทั้งนี้ นักศึกษาได้เข้าไปเรียนรู้การสร้างความเข้มแข็งของคนในชุมชนบ้านหัวสวนในหลายด้าน โดยนักศึกษาให้ความสนใจใน 3 เรื่อง
          1.ด้านเศรษฐกิจชุมชนแบบพึ่งตนเอง ชาวบ้านหัวสวนได้มีการรวมตัวกันในหมู่บ้านในการทำกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ เพื่อการเกษตร การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วย กลุ่มผลิตเครื่องแกง ร้านค้าชุมชน และกลุ่มจักสาน โดยเฉพาะเรื่องกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อการเกษตร เป็นกิจกรรมการออมเงิน มีการให้บริการด้านสินเชื่อให้แก่สมาชิกของกลุ่ม มีการจัดตั้งร้านค้าชุมชนเพื่อจัดหาของอุปโภคบริโภค วัสดุอุปกรณ์การเกษตร ปุ๋ยเคมี มาจัดจำหน่ายให้แก่สมาชิกในหมู่บ้านและบุคคลทั่วไป
           2.การสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน ควรเริ่มจากการสร้างความสมานฉันท์ในครอบครัวก่อน เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกันภายในครอบครัว แล้วจึงจะเป็นผลให้เกิดความสมานฉันท์ในชุมชนต่อไป ซึ่งหัวใจสำคัญนั้น คือ การช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน
           3.ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันของชุมชน คือการที่ผู้นำได้ลงไปสัมผัสกับตัวเอง เช่น การพูดคุยแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน โดยไม่ยึดติดกับตัวผู้นำเพียงอย่างเดียว โดยชาวชุมชนบ้านหัวสวน ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาสร้างเป็นภูมิคุ้มกัน คือการลดรายจ่าย การเพิ่มรายได้ การออม การสร้างกระบวนการเรียนรู้ในชุมชน การเอื้ออาทรต่อกัน
           ทั้งนี้ วชช.พังงา หวังว่าสิ่งที่นักศึกษาจะได้รับจากการออกค่าย ไม่ว่าความรู้ด้านเศรษฐกิจชุมชนแบบพึ่งพาตนเอง เช่น การรวมกลุ่มออมทรัพย์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกล้วย ร้านค้าชุมชน กลุ่มจักสาน ด้านวิถีประชาธิปไตย การสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน นักศึกษาจะสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือใช้กับชุมชนของตนเองได้
            นายณัฐดนัย หวังเกสร (บาว) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการปกครองท้องถิ่น วชช.พังงา กล่าวว่า ตนได้รับความรู้มากมายจากคนในชุมชนบ้านหัวสวน โดยเฉพาะเรื่องการประกอบอาชีพ ซึ่งชาวชุมชนได้แนะนำวิธีการเพาะเห็ดให้กับตน ซึ่งได้นำวิธีการกลับมาใช้ที่บ้าน โดยสร้างโรงเรือนสำหรับการเพาะเห็ดเอง แต่สั่งหัวเชื้อจากชาวชุมชนบ้านสวน ซึ่งเห็ดรุ่นแรกได้ออกผลผลิตแล้ว และได้แจกจ่ายให้กับญาติพี่น้อง และรับประทานเองในครอบครัว รวมทั้งยังได้ปลูกพืชผักสวนครัวไว้ในบริเวณบ้านอีกด้วย การเข้าค่ายฯ เป็นสิ่งที่ดีมาก เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งความรู้ที่ได้สามารถนำมา สร้างเป็นอาชีพได้ในอนาคต
             น.ส.ฮาวา ปาโหด (วา) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการปกครองท้องถิ่น วชช.พังงา กล่าวว่า การเข้าค่ายฯ ในครั้งนี้ ทำให้ตนได้ตระหนักว่า เวลาอยู่ในที่ประชุม ความคิดที่แตกต่างนั้น สามารถนำเสนอออกมาได้ เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบ ซึ่งอาจส่งให้เกิดผลดีในที่สุด เพราะที่ผ่านมามองว่า หากเราเป็นเสียงส่วนน้อยจะไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ผิดกับที่บ้านหัวสวนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนใช้สิทธิ์ใช้เสียงที่มีอยู่ ซึ่งเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ซึ่งตนจะไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
             น.ส.ปราณี แซ่เสี้ยว (อ้อ) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาการปกครองท้องถิ่น วชช.พังงา กล่าวว่า การมาค่ายในครั้งนี้ สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคนในชุมชน คือ การจัดตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ เพราะเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชนอย่างแท้จริง ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง รวมถึงเรื่องการมีผู้นำที่ดี ผู้นำของชุมชนนี้จะเป็นผู้ลงมือทำในทุกกิจกรรม เพื่อให้ลูกบ้านเห็นภาพและจะได้ปฏิบัติตาม ซึ่งในหลายๆ ชุมชนควรนำไปเป็นแบบอย่าง

ประกาศรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับอนุปริญญา

วิทยาลัยชุมชนพังงา หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ปีการศึกษา 2554 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยรับสมัครสาขาวิชาดังนี้
1. สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย   จำนวน 30 คน
2. สาขาวิชาการจัดการทั่วไป    จำนวน  30 คน
3. สาขาการปกครองท้องถิ่น     จำนวน  30 คน

คุณสมบัติ  จบการศึกษาไม่ต่ำกว่าชั้น ม.6 หรือเทียบเท่า
สมัครได้ที่ หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี (โรงเรียนบ้านกลางประชาสรรค์) ม.2 ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา
โทรศัพท์/โทรสาร  076-491850,089-2967576

กำหนดการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2/2553

วิทยาลัยชุมชนพังงา หน่วยจัดการศึกษาคุระบุรี กำหนดวันเปิดเทอมภาคเรียนที่ 3/2553 ในวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553 ขอให้นักศึกษาเตรียมเงินมาชำระค่าลงทะเบียนเรียนด้วย